ค่า N E Z คืออะไร นำมาใช้ทำอะไรในงานสำรวจ ?

ค่า N E Z คืออะไร นำมาใช้ทำอะไรในงานสำรวจ ?

ค่า NEZ (North, East, Elevation) เป็นค่าพิกัดที่ใช้ในการกำหนดตำแหน่งในงานสำรวจ โดยมีบทบาทสำคัญใน การวางแนว, การวางผัง, การคำนวณระยะทาง, และการถ่ายโอนข้อมูลไปยังซอฟต์แวร์ออกแบบ เพื่อให้เกิดความแม่นยำในการดำเนินงานก่อสร้างและสำรวจพื้นที่

1. การกำหนดพิกัดจุดสำรวจในพื้นที่

ค่า N (North) และ E (East) ใช้ระบุตำแหน่งจุดใน แนวราบ ส่วนค่า Z (Elevation) ใช้ระบุ ความสูงหรือระดับของจุด

ตัวอย่างการใช้งาน:

• การวางหมุดควบคุม (Control Point) ในพื้นที่
  
• การระบุจุดสำรวจ เช่น ตำแหน่งเสาเข็ม, ตำแหน่งสิ่งก่อสร้าง

ประโยชน์:

ช่วยให้รู้ตำแหน่งที่แน่นอนของจุดต่าง ๆ และช่วยลดข้อผิดพลาดในการวางผังหรือก่อสร้าง

2. การคำนวณระยะทางระหว่างจุดต่าง ๆ

ค่า NEZ ใช้คำนวณ ระยะทางระหว่างจุดสองจุด (Distance) ในแนวราบและแนวดิ่งได้

• ใช้ในการคำนวณระยะทาง ระหว่างจุดสำรวจ หรือ ระหว่างหมุดควบคุม
• ใช้คำนวณระยะ Offset หรือระยะตั้งหมุด สำหรับงานวางผังในพื้นที่จริง

3. การถ่ายโอนข้อมูลลงโปรแกรมออกแบบ (AutoCAD หรือ GIS)

ในงานสำรวจสมัยใหม่ ข้อมูล NEZ จาก กล้อง Total Station สามารถถ่ายโอนเข้าสู่ โปรแกรม AutoCAD หรือ GIS เพื่อสร้างแบบแปลนและแผนที่ได้โดยตรง

• ใช้ในการสร้าง แบบแปลนพื้นที่ (Topographic Map)
• ใช้ในการออกแบบโครงสร้าง เช่น ถนน, สะพาน, อาคาร, และเขื่อน

ประโยชน์:

• ลดเวลาในการเขียนแบบแปลนด้วยมือ
• เพิ่มความแม่นยำและลดความผิดพลาดในการออกแบบ

4. การคำนวณและชดเชยความต่างระดับ (Elevation Correction)

ค่า Z (Elevation) ช่วยในการคำนวณ ความต่างระดับระหว่างจุด ซึ่งมีความสำคัญในงานก่อสร้าง เช่น

• การคำนวณความต่างระดับพื้นดินสำหรับ การถมดิน
• การปรับความสูงของสิ่งก่อสร้าง เช่น ถนน, อาคาร หรือรางรถไฟ

ประโยชน์:

ช่วยให้โครงสร้างมีระดับความสูงที่ถูกต้อง และลดความเสี่ยงของปัญหาน้ำท่วมขังหรือความลาดเอียงที่ไม่เหมาะสม

5. การตั้งหมุดและวางผังในพื้นที่จริง

ค่า NEZ ใช้ในการ ตั้งหมุดควบคุม (Station Point) และ วางผัง (Layout) ในพื้นที่จริง

• ใช้ในการตั้งตำแหน่ง จุดก่อสร้าง เช่น เสาเข็ม, คาน, แนวรั้ว
• ใช้ในการวางแนว ถนนหรือทางเดิน ให้ตรงตามแผนที่ออกแบบ

ประโยชน์:

ช่วยให้การก่อสร้างและวางผังเป็นไปตามแบบแปลนอย่างถูกต้องและแม่นยำ

สรุปประโยชน์ของค่า NEZ ในงานสำรวจ

1. ใช้ระบุตำแหน่งจุดสำรวจอย่างแม่นยำ
2. ช่วยคำนวณระยะทางและความต่างระดับระหว่างจุด
3. ช่วยในการถ่ายโอนข้อมูลลงโปรแกรมออกแบบ
4. ใช้ในการคำนวณ Offset และการวางหมุดควบคุมในพื้นที่
5. ลดข้อผิดพลาดในการก่อสร้างและสำรวจพื้นที่