การใช้งานระหว่างกล้องระดับ กล้องวัดมุมแตกต่างกันอย่างไร

Last updated: 18 ก.พ. 2568  |  28 จำนวนผู้เข้าชม  | 

การใช้งานระหว่างกล้องระดับ กล้องวัดมุมแตกต่างกันอย่างไร

การใช้งานระหว่างกล้องระดับ กล้องวัดมุมแตกต่างกันอย่างไร ?

ในการทำงานทางด้านสำรวจและวิศวกรรมโยธา “กล้องระดับ” (Level) และ “กล้องวัดมุม” (Theodolite หรืออาจเรียกสั้น ๆ ว่า กล้องธีโอโดไลต์) เป็นเครื่องมือหลักที่นิยมใช้งานกันอย่างแพร่หลาย ถึงแม้ว่าทั้งสองชนิดจะมีลักษณะการทำงานที่เกี่ยวข้องกับการวัดข้อมูลมุมหรือระดับในพื้นที่ แต่ก็มีจุดประสงค์ในการใช้งานและคุณสมบัติที่ต่างกันอย่างชัดเจน บทความนี้จะอธิบายถึงลักษณะการทำงาน ความแตกต่าง และตัวอย่างการประยุกต์ใช้งานของทั้งสองชนิด

กล้องระดับ (Level)

1.1 ลักษณะและหลักการทำงาน 

หน้าที่หลัก: ใช้สำหรับวัดระดับความสูง (Elevation) หรือความต่างระดับ (Difference in Elevation) ระหว่างจุดต่าง ๆ

การวัด: สามารถสังเกตเป้า (Staff หรือ Rod) ซึ่งเป็นสเกลวัดระดับวางตั้งที่จุดที่ต้องการ จากนั้นหมุนปรับกล้องให้ระดับพอดีตามแนวระนาบ (Horizontal Line of Sight)

หลักการเบื้องต้น: กล้องระดับเมื่อปรับให้อยู่ในแนวระนาบแล้ว เส้นเล็งของกล้องจะขนานกับแนวราบ ทำให้ค่าที่อ่านได้จาก Staff ในแต่ละจุด สามารถนำไปคำนวณส่วนต่างของระดับสูง-ต่ำได้

1.2 ประเภทของกล้องระดับ

กล้องระดับแบบ Manual: ต้องอาศัยการปรับตั้งระดับฟองกล้อง (Bubble) ด้วยมือ ให้ได้แนวราบที่แม่นยำ

กล้องระดับแบบ Automatic (Auto Level): มีระบบลูกตุ้มภายใน สามารถปรับตั้งแนวราบได้อัตโนมัติในระยะเบี่ยงเบนเล็กน้อย ลดความผิดพลาดจากผู้ใช้งาน

กล้องระดับแบบดิจิทัล (Digital Level): ใช้งานร่วมกับ Staff บาร์โค้ดหรือสเกลพิเศษ กล้องจะประมวลผลและอ่านค่าระดับโดยตรง ช่วยเพิ่มความสะดวกและลดความผิดพลาด

1.3 ตัวอย่างการประยุกต์ใช้งาน

งานก่อสร้างถนน: ตรวจสอบความเรียบและความลาดชันของพื้นผิวถนน

งานก่อสร้างอาคาร: วัดค่าระดับของฐานราก เสา คาน ให้ได้ตามมาตรฐาน

งานวางแนวท่อระบายน้ำ: ควบคุมระดับและความลาดเอียงของท่อ

กล้องวัดมุม (Theodolite)

2.1 ลักษณะและหลักการทำงาน

หน้าที่หลัก: ใช้วัดมุมราบ (Horizontal Angle) และมุมดิ่ง (Vertical Angle) เพื่อกำหนดทิศทาง ระยะ และความสัมพันธ์ทางมุมของจุด

การวัด: มีวงกลมองศา (Graduated Circle) สำหรับอ่านค่ามุมแนวราบและแนวดิ่ง สามารถเล็งไปยังเป้าหรือวัตถุได้หลายตำแหน่ง เพื่ออ่านค่ามุมเปรียบเทียบแต่ละตำแหน่ง

หลักการเบื้องต้น: ผู้งานจะตั้งกล้องวัดมุมและปรับให้อยู่ในแนวตรง (Levelling) จากนั้นทำการเล็งเป้าหมาย (Target) ในตำแหน่งแรกเพื่อเป็นค่าอ้างอิง (Reference) แล้วหมุนกล้องเพื่อเล็งไปยังตำแหน่งถัดไปเพื่ออ่านค่ามุมที่เปลี่ยนไป

2.2 ประเภทของกล้องวัดมุม

Theodolite แบบแมนนวล: ผู้ใช้งานต้องหมุนแป้นปรับองศาระนาบและองศาดิ่งด้วยมือ และอ่านค่าจากหน้าปัดองศา

Electronic Theodolite: อ่านค่าได้จากจอแสดงผล (Digital Display) ช่วยให้ใช้งานสะดวกและความแม่นยำสูง

2.3 ตัวอย่างการประยุกต์ใช้งาน

งานกำหนดทิศทางและวางผังอาคาร: กำหนดตำแหน่งและผังอาคารให้ตรงตามแบบ โดยเฉพาะจุดมุมต่าง ๆ ของอาคาร

งานสำรวจพื้นที่: สร้างโครงข่ายจุดควบคุม (Control Points) สำหรับงานสำรวจหรือทำแผนที่

งานติดตั้งเครื่องจักร: ตรวจสอบความขนานของเสา เครื่องจักร หรือชิ้นส่วนขนาดใหญ่ซึ่งต้องใช้ความเที่ยงตรงสูง

 

ดังนั้น การเลือกใช้กล้องระดับหรือกล้องวัดมุมควรพิจารณาตามความต้องการของงาน หากเน้นการวัดความสูงหรือความต่างระดับเป็นหลัก ควรเลือกใช้กล้องระดับ ในทางกลับกัน หากต้องการวัดมุม ทิศทาง หรือต้องทำโครงข่ายจุดควบคุมที่แม่นยำ กล้องวัดมุม (หรือ Total Station) จะตอบโจทย์ได้ดีกว่า การเข้าใจคุณสมบัติของแต่ละเครื่องมือจะช่วยให้เราสำรวจ ควบคุมคุณภาพงาน และก่อสร้างได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพมากขึ้น


ยินดีให้คำปรึกษาแนะนำ กล้องระดับ กล้องวัดมุม กล้องประมวลผลรวม และบริการหลังการขาย : บริษัท พี นัมเบอร์วัน อินสตรูเม้นท์ จำกัด


 


 




 


 

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้