การหาค่าระยะโดยใช้กล้องระดับ สามารถทำได้ไหม?

Last updated: 8 เม.ย 2568  |  43 จำนวนผู้เข้าชม  | 

การหาค่าระยะโดยใช้กล้องระดับ สามารถทำได้ไหม?

การวัดระยะโดยใช้กล้องวัดระดับ

กล้องวัดระดับสามารถใช้วัดระยะทางได้ โดยอาศัยหลักการอ่านค่าจาก Stadia Hair หรือ Reticle Lines ที่อยู่ในกล้องร่วมกับ ไม้สต๊าฟ (Leveling Staff) ซึ่งเป็นไม้บรรทัดที่มีสเกลบอกระยะ

หลักการวัดระยะโดยใช้กล้องวัดระดับ:

  1. ตั้งกล้องวัดระดับ บนขาตั้งกล้องและปรับระดับให้เรียบร้อย
  2. วางไม้สต๊าฟ ในแนวตั้ง ณ จุดที่ต้องการวัดระยะ
  3. เล็งกล้องไปยังไม้สต๊าฟ และอ่านค่าจากเส้นใย Stadia Hair บน (Upper Stadia) และเส้นใย Stadia Hair ล่าง (Lower Stadia)
  4. คำนวณระยะทาง โดยใช้สูตร:

    ระยะทาง (D) = K x (ค่า Stadia บน - ค่า Stadia ล่าง)

    โดยที่ K คือค่าคงที่ของกล้อง (Stadia Interval Factor) ซึ่งส่วนใหญ่มักมีค่าเท่ากับ 100

ตัวอย่าง:

  • อ่านค่า Stadia บนได้: 1.985 เมตร
  • อ่านค่า Stadia ล่างได้: 0.645 เมตร
  • ค่า K = 100

ดังนั้น ระยะทาง (D) = 100 x (1.985 - 0.645) = 100 x 1.340 = 134.0 เมตร

ข้อจำกัดของการวัดระยะด้วยกล้องวัดระดับ:

  • ความแม่นยำ: การวัดระยะด้วยวิธีนี้มีความแม่นยำน้อยกว่าการวัดด้วยเทปวัดระยะ หรือเครื่องมือวัดระยะทางอิเล็กทรอนิกส์ (EDM) เช่น กล้อง Total Station
  • ระยะทาง: เหมาะสำหรับการวัดระยะทางที่ไม่ไกลมากนัก เนื่องจากความชัดเจนในการอ่านค่าบนไม้สต๊าฟจะลดลงเมื่อระยะทางมากขึ้น
  • ความลาดชัน: หากพื้นที่ระหว่างกล้องและไม้สต๊าฟมีความลาดชันมาก จะต้องมีการคำนวณเพิ่มเติมเพื่อหาระยะทางในแนวราบที่แท้จริง

สรุป:

กล้องวัดระดับสามารถใช้วัดระยะทางได้โดยอาศัยหลักการอ่านค่า Stadia Hair บนไม้สต๊าฟ แต่มีความแม่นยำและข้อจำกัดในการใช้งานบางประการ หากต้องการความแม่นยำสูงและวัดระยะทางไกล ควรเลือกใช้เครื่องมือวัดระยะทางที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ เช่น กล้อง Total Station หรือเครื่องวัดระยะทางเลเซอร์


ยินดีให้คำปรึกษาแนะนำ กล้องระดับ กล้องวัดมุม กล้องประมวลผลรวม และบริการหลังการขาย : บริษัท พี นัมเบอร์วัน อินสตรูเม้นท์ จำกัด

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้