ประสิทธิภาพของกล้องวัดมุมในการกำหนดระยะทางแนวนอนสำหรับงานวางหมุด

          การวางหมุด (Stake-Out) เป็นขั้นตอนสำคัญในการนำแบบก่อสร้างสู่พื้นที่จริง โดยการระบุพิกัดตำแหน่งลงสู่ภาคสนาม แม้ว่าเครื่องมือวัดขั้นสูงอย่าง Total Station หรือ GNSS จะได้รับความนิยมมากขึ้น แต่ในงานก่อสร้างระดับเล็กถึงกลาง กล้องวัดมุม (Theodolite) ร่วมกับการคำนวณผ่านเครื่องคิดเลขยังเป็นที่นิยมเนื่องจากต้นทุนและการใช้งานที่ง่ายกว่า

          การศึกษาของ Totok Sulistyo และคณะ (2019) มีเป้าหมายเพื่อประเมินความแม่นยำและความเที่ยงตรงของกล้องวัดมุมในการกำหนดระยะทางแนวนอน โดยใช้แอปพลิเคชัน Stake Out Guide บนสมาร์ตโฟนร่วมในการจำลองค่าการอ่านจากไม้สต๊าฟ เพื่อลดความผิดพลาดจากมนุษย์ในการทดลอง

          ในการทดลองนี้ ผู้วิจัยได้ป้อนพิกัดตำแหน่งของกล้อง จุดหลัง (Back-sight) และจุดวางหมุด (Stake-out Point) ลงในแอปพลิเคชัน จากนั้นคำนวณมุม Azimuth และระยะทางแนวนอนจากสูตรทางตรีโกณมิติ และทำการจำลองการอ่านค่าไม้สต๊าฟโดยปรับเปลี่ยนมุมดิ่งทีละ 0°30' รวมทั้งสิ้น 40 ครั้ง

          ผลการทดลองพบว่า กล้องวัดมุมมีประสิทธิภาพที่ดี โดยค่าระยะทางจริงตามทฤษฎีอยู่ที่ 25.461 เมตร ในขณะที่ค่าระยะทางเฉลี่ยจากการทดลองคือ 25.460 เมตร ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความแม่นยำ (Accuracy) สูงที่ 0.025 เมตร และมีความเที่ยงตรง (Precision) ในระดับ 0.029 เมตร หรือมีค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานสัมพัทธ์ (RDS) อยู่ที่ 0.12% เท่านั้น นอกจากนี้ผลลัพธ์จากการศึกษานี้ยังมีประสิทธิภาพสูงกว่าการศึกษาก่อนหน้าของ Gill & Aryan (2016) ที่มีความแม่นยำอยู่ในช่วง 0.2-0.3 เมตร

          อย่างไรก็ตาม กล้องวัดมุมมีข้อจำกัดที่ไม่สามารถวัดระยะทางโดยตรงได้เหมือนกล้อง Total Station ดังนั้น ผู้วิจัยแนะนำให้มีการเสริมการวัดโดยใช้ไม้บรรทัดหรือสายวัดที่ตำแหน่งวางหมุด และผู้ใช้งานควรฝึกฝนการอ่านค่าไม้สต๊าฟอย่างชำนาญ หรืออาจเลือกใช้เครื่องวัดระยะเลเซอร์ร่วมกับกล้องวัดมุมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการวัดให้สูงขึ้น

          จากผลการศึกษานี้สรุปได้ว่า กล้องวัดมุมมีประสิทธิภาพเพียงพอสำหรับการกำหนดระยะทางแนวนอนในงานสำรวจและก่อสร้างทั่วไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีการเสริมเทคนิคการวัดและการอ่านค่าที่เหมาะสม

CR: Totok Sulistyo, Karmila Achmad, Rahmad Bangun Giarto  

 ยินดีให้คำปรึกษาแนะนำ กล้องระดับ กล้องวัดมุม กล้องประมวลผลรวม และบริการหลังการขาย : บริษัท พี นัมเบอร์วัน อินสตรูเม้นท์ จำกัด